(https://1.bp.blogspot.com/-vB3QVTwPShE/YVwsdnKJmkI/AAAAAAAAD4s/IN5X_VwSHi4ZUnn9NjC5lNPRa280AE54ACLcBGAsYHQ/s500/batch_55Plus.png)
ยาชาสักสำหรับการสักแบบทาภายนอกเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสักผิวแบบที่แข็งแรงและสวยงาม ยาชานี้มีคุณสมบัติที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในเวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น
คุณสมบัติ: ยาชาสัก (https://www.xn--12caz5dzbxct8adb7v.com/)ที่ใช้สำหรับสักผิวแบบทาภายนอก มีระยะเวลาการทำงานประมาณ 3 ชั่วโมง และขนาดพื้นที่ที่ใช้งานประมาณ A4 ต่อหลอดเท่านั้น
วิธีใช้ยาชาสำหรับการสักคือ ล้างผิวให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำเกลือบริเวณที่ต้องการสักก่อน จากนั้นให้ทายาชาบนผิวที่ต้องการสักให้หนาประมาณ 2-3 มิลลิเมตร (ควรทาให้ครีมมีความหนาอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร) หลังจากที่ทาครีมยาชาสักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรปิดด้วยซีลให้เร็วที่สุด และอย่าให้อากาศเข้าในระหว่างการปิดซีล ควรปิดซีลไว้ประมาณ 60-80 นาที หลังจากครบเวลาที่กำหนดแล้ว สามารถแกะซีลออกได้ แล้วล้างครีมยาชาออกให้สะอาด ตอนนี้ก็พร้อมสำหรับการสักแล้วค่ะ
ยาชาแบบทาเมื่อสักผ่านผิวหนังบริเวณที่ทายาชาสักไปแล้ว สามารถเกิดผลขึ้นได้ทันทีเนื่องจากผิวที่สัมผัสเข็มจะเกิดการอักเสบเป็นปกติ ดังนั้นมียาชาที่ใช้ร่วมกับการสักอื่นๆ ที่มีราคาสูงเป็นไปได้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลังหากต้องการสั่งซื้อเพิ่มใน
กรณีที่ต้องการใช้ยาชาแบบทา หลังการสักเสร็จสิ้น ควรทา "บีเพนเทน" ซึ่งมีในกล่องสีส้มขาว โดยควรทาให้ครบ 30 นาที รอให้การสักลอกออกไปเป็นแบบสวยงามและสีกลับมาตามปกติ (สามารถซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วไป กล่องสีส้มขาว) เป็นครีมที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในแผลสำหรับการสัก
(https://1.bp.blogspot.com/-Ia0sOh3ugV0/YVxHyQG-Z2I/AAAAAAAAD48/fruSR3QeCO82VAb5YHRxbyKdGgdRDwPyACLcBGAsYHQ/w430-h301/batch_39%25E0%25B8%259F%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2.png)
คำเตือนในการใช้ยาชาแบบทายาชาสัก อย่าใช้บริเวณใบหน้า แต่สามารถใช้ได้บนคิ้ว อย่าใช้ทารอยสักที่ยังไม่ลอก ต้องรอให้ลอกสักเสร็จในระยะเวลา 9-10 วัน ก่อนที่จะดำเนินการสักใหม่และก่อนการสักครั้งต่อไป ควรลองทดสอบการทายาชาสักบริเวณผิวหนังที่อ่อนแอหรือผิวที่มีความบอบอ่อนเพื่อทดสอบว่ามีอาการแพ้หรือไม่ก่อนใช้ ยาชาแบบทาหลังจากเจาะใช้งานแล้วไม่ควรเก็บไว้เกินระยะเวลา 7 วัน หลังจากเจาะใช้งานแล้ว