กล่าวอย่างไร ให้ได้ใจผู้ฟัง ให้เขารักเรา

[Hanako5]

1. เริ่มประโยค ด้วยความเป็นกันเอง

บางทีอาจจะเป็นการไถ่ถามส า ร ทุกข์สุกดิบด้วยความห่วงแล้วก็ตั้งใจในคำตอบของเขา อย่าลืมใช้คให้ำอ่อนน้อมถ่อมตน สมควร รวมทั้งนุ่มนวลด้วยนะคะ "เป็นอย่างไรบ้ า งหยุดย า วที่ผ่านมา

ท่องเที่ยวไหนมาบ้ า งขา" การใช้ความเป็นกันเองจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่ อ น คลายรวมทั้งเป็นมิตรด้วยนะคะ อีกประเด็นคืออวัจนะภาษาค่ะ ลักษณะท่าทางการพูดที่ถูกถ่ายทอดออก


มาระหว่างดวงตาพวกเราหรือการสัมผัสบางสิ่งบางอย่างดังเช่น การแตะต้องไหล่เพื่อให้พลังใจ การจับมือเพื่อปลอบประโลมปะโลม ตบมือให้เพื่อให้แรงใจ ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้ท่านรวมทั้งเค้าเข้าถึงกันได้ง่ายเข้าไปใหญ่

2. ฝึกพูด คำว่า"ไม่" แล้วชีวิตคุณจะ "ใช่"

เพราะเหตุว่าคำว่า"ไม่" มันพูดให้ดูดีย า ก บอกให้ความหมายเป็นบวกได้ย า กมากมาย คำบางคำเป็นคำที่มักประยุกต์ใช้ทำร้ า ย จิตใจคนอื่นๆ แสดงถึงความไม่ชอบใจในตัวเขาหรืองานของเขา ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยใช้คำนี้จนถึงติดเป็นนิสัยซึ่ง

ไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเองเลยล่ะจ้ะ อย า กให้ทดลองเปลี่ยนการใช้มันดูนะคะ ดังเช่น "ทดลองทำแบบงี้ดูดีไหม" "อย่างงี้ดีแล้วนะ ถ้าหากเพิ่มส่วนนี้อีกหน่อยคุณรู้สึกว่าจะเป็นอย่างไรค่ะ" มีความหมายว่า พวกเรามิได้ไม่ยอมรับความนึกคิดของอีกฝ่ายแม้กระนั้นลองแนะนำเพิ่มเติมเสมอเหมือนการเสนอแนะเขา

3. มองให้ได้ 3 มุม

การพูดเป็นเช่นกระบี่ 2 คม ไม่ทิ่มแทงแ ท ง เค้า ก็ย้อนกลับมาแ ท ง ที่ตัวเราเอง "สติ"อย่างเดียวอาจน้อยเกินไป คุณจำเป็นต้องฝึกฝนกระบวนการการคิดอย่างมีสติและก็วิเคราะห์ไปพร้อมๆกันด้วยค่ะ

มองว่าธรรมชาติของเค้าเป็นคนเช่นไร เรื่องไหนควรจะพูด เรื่องไหนไม่ควรพูด แต่ว่าที่สำคัญไปๆมาๆกกว่านั้น ทุกคราวหากจะมีการต่อว่า ตัดเตือน ปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดของงาน ให้ทดลองดูให้ได้ 3 มุม


1. มุมของพวกเรา : เรามองว่าเช่นไร ในตำแหน่ง หน้าที่พวกเรา เราควรดูแบบไหน แก้ปัญหายังไง


2. มุมของเค้า : ถ้าเกิดพวกเราเป็นเค้าเราจะทำอย่างไร ถ้าหากเราตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดนอย่างนี้เช่นกันเราจะรู้สึกยังไง แล้วพวกเราจะจัดการกับปัญหานั้นแบบไหน

3. มุมของบุคคลที่3 หรือคนอื่นๆที่มองดู 2 คนนี้อยู่ : เค้าทำอะไรกัน สิ่งที่เป็นปัญหาก็คืออะไร เล็ก ใหญ่แค่ไหน ขนาดที่จึงควรทะเลาะกันเลยแบบนั้นหรือ ทะเลาะด้วยเรื่องนี้เหตุผลมาจากอะไร เป็นต้น

ถ้าเกิดคุณมองให้ได้ครบทุกมุม คุณจะเห็นทุกด้านของความนึกคิด เข้าใจเค้า เข้าใจเรา รู้เรื่องสถานการณ์ที่เกิดเยอะขึ้นเรื่อยๆ

4. อย่าว่ากล่าวคนใดกันแน่ ซึ่งๆหน้าคนอื่นๆ

ไม่มีใครถูกใจการถูกว่ากล่าวค่ะ พวกเราก็เช่นเดียวกันใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งโดนดุด่าซึ่งๆหน้าคนอื่นๆด้วยแล้วล่ะก็ มันช่างเ จ็ บ โกรธแค้นแสนสาหัสเสียอย่างมากจริงๆการด่าผู้ใดต่อหน้าบุคคลอื่นมันเป็นการตั้งมั่นฉีกหน้าเค้าให้พังยับประเภทที่เรียกว่า

คนที่โดนด่านั้นจะจำฝังใจไปกระทั่งวันต า ย อย่างยิ่งจริงๆ แล้วก็ความเกี่ยวข้องระหว่างคุณรวมทั้งเค้าจะเสียไปในทันที ท้ายที่สุดแล้วไม่มีข้างไหนชนะ ไม่มีผู้ใดได้ประโยชน์จากวิธีการทำแบบงี้ค่ะ ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้วถ้าเกิดไม่ใช่เรื่องที่ส่งผลเสียต่อสาธารณะชี้แนะว่าไม่สมควรทำอย่างมากจ้ะ

5. มีนายช่างฝีมือชม

ชมเมื่อเค้าทำดี ปฏิบัติงานเจริญ ช่วยเหลือคนอื่น ส่งผลงานที่ดี ทำตัวดี คุณก็ควรจะดูเค้าด้วยความเต็มใจที่ห่วงใย คำบอกเล่า คำจา น้ำเสียงที่ดี เค้าหน้าชื่นมื่นพลอยยินดีไปกับเค้าด้วย เพราะสิ่งพวกนี้มีผลต่อความรู้สึกมากมายนะคะ ผู้ที่ถูกชมเค้าจะเหมือนได้รับของขวัญพิเศษจากคุณ ทำให้มีแรงผลักดัน มีพ ลั ง ที่จะทำสิ่งนั้นให้ดียิ่งๆขึ้นไป

การมีศิลปกรดูที่ดีนั้น ไม่มีความจำเป็นจำเป็นต้องดูที่ผลงานของเค้าแค่นั้นจ้ะ อย า กให้ลองชมความน่ารักของเค้า ความมีน้ำใจ ความเอาใจใส่ที่เค้ามีต่อคุณ ชมเครื่องแต่งตัว


ชมยานพาหนะ ชมกระเป๋าสำหรับถือเค้า หรือสิ่งบริเวณตัวเค้า เพียงเท่านี้ก็เป็นการสร้างความสำราญให้เค้าได้แล้ว และเค้าจะกำเนิดภาคภูมิใจกำเนิดความเชื่อมั่นและมั่นใจในตัวเอง แล้วเขาจะรักพวกเรา หากแม้เคยเป็นศั ต รู กันโกรธไม่มองหน้ากันก็จะหายโกรธพวกเราจ้ะ ทดลองดูนะคะ

6. อย่ารั ก ษ า ความเอื้อเฟื้อด้วยการพูดอะไรที่มันไม่จริง

บางคนหลงผิดว่าการบอก"รั ก ษ า น้ำใจ"เป็นการกล่าวในสิ่งที่มันไม่จริงเพื่อเค้ากระปรี้กระเปร่า รวมทั้งครั้งคราวมนุษย์เรา ก็ถูกใจที่จะ "รั ก ษ า ภาพพจน์"(ที่ไม่จริงของตน)มากยิ่งกว่ารั ก ษ า น้ำใ

จึงเลือกพูดไปในสิ่งที่มันไม่จริงเนื่องจากว่ากลัวว่าหากพวกเราพูดเรื่องจริงไป"เราจะดูแย่ และบางโอกาสก็รั ก ษ า ความเอื้อเฟื้อ ด้วย"การไม่บอก" ซึ่งทั้งการพูดอะไรที่มันไม่จริงและอีกทั้งการไม่บอก

มันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำค่ะ เพราะว่านอกเหนือจากจะเป็นเสมือนการผลักดันและสนับสนุนความประพฤติปฏิบัติของเค้าแล้ว ทำให้เขาไม่รู้ตัว แถมยังหลงละเลิงว่าสิ่งที่ตัวเราเองทำนั้นถูกก็ดีแล้ว

"คิดทุกคำก่อนที่จะกล่าว แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องพูด ทุกคำที่พวกเราคิด" ไม่พอค่ะ จำต้องเลือกใช้คำที่จะกล่าวให้สมควรด้วย

7. พบปัญหาที่จะต้อง "ฟั น ธง" หรือ "ตกลงใจ" บางอย่างแล้วเรายังคลุมเคลือ ตอบอย่างไรให้ดูดี

ถ้าหากต้องมีการตอบคำถามที่เป็นปัญหาปลายปิด "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ควรจะหรือเปล่าควรจะ ดีไหมดี คุณคิดอย่างไร จะต้องทำยังไง เจอปัญหาพวกนี้แล้วพวกเราไม่เคยรู้ไหมมั่นใจในคำตอบ

สิ่งที่เป็นปัญหานั้นก็คือถ้าหากเราไม่ตอบ พวกเราก็มองแ ย่ หากพวกเราตอบแล้วตอบไม่ถูก ก็มองแ ย่ ไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นหนทางของพวกเราให้เราแถได้แบบแถแล้วดูดี หลักมันอยู่นี้ค่ะ


⁃ คำตอบของคุณควรต้องไม่ไปพูดถึงคนใดกันแน่ ไม่เป็นการว่ากล่าวใคร


⁃ ใช้เหตุมีผลมารองรับ จะให้น้ำ ห นั ก กับคำตอบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอบช้าๆได้จ้ะ ช่างเถิด เบาๆใช้สมอง ตอบอย่างมีสติ ระบุถึงเหตุผลแหล่งที่มาให้ชัดแจ้ง

⁃ คุณสามารถชี้แจงได้นะคะในบางเรื่อง ว่าประเด็นนี้"ไม่เกี่ยวกับเราโดยตรง" ด้วยลักษณะงานแล้ว "ฉันอย า กช่วยมากๆเลยค่ะ เลยอย า กชี้แนะให้ลองขอคำแนะนำทาง... จะได้คำตอบที่แน่นอนกว่านะคะ" นี่เป็นการปฏิเสธแบบรั ก ษ า ความมีน้ำใจ

⁃ ถามกลับไป ทวนคำถามเพื่อ ใคร่ครวญมุมมองของเขา แล้ว"คุณคิดยังไงบ้ า งขา" แต่ว่ากรณีนี้เราต้องมีการเติมความเห็นของเราลงไปบ้ า งนะ เค้าจะได้ทราบสึกได้ว่าเรากำลังพย า ย า มช่วยหาคำตอบอยู่

⁃ หาคำตอบมาให้ภายหลัย คุณสามารถตอบในลักษณะที่ว่า "ดิฉันรู้แต่เพียงว่า... ส่วนที่เพิ่มเติมอีกจะรีบไปค้นหาคำตอบมาให้นะคะ"

"แนวทางบอกเช่นไรให้คู่รักนี้" ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่ า น ทุกท่านนะคะ และก็ขอขอบพระคุณจากใจที่อ่ า น มันจนถึงบรรทัดนี้ แต่ว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นได้เพียงแค่คำเสนอแนะสั้นๆที่ถูกเลื่อนหายไปจากฟีตหน้าเ ฟ ส บุ๊ ค ของคุณแค่นั้น ถ้าหากคุณไม่ลองเปิดใจ
เทคนิคการพูด
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13493/