การ เนรคุณคน ไม่เคยทำให้คนใดกันแน่ก้าวหน้า

[Jessicas]

ผู้ที่เข้ามาหาคุณนั้น มีหลายแบบ พวกเราควรรู้จักแยกให้ออก

บ้างก็ความจริง บ้างก็แค่ละคร ให้มองน่าสงส าร

ครั้งคราวคุณยื่นมือเข้าไปช่วย แทนที่จะได้รับสิ่งที่ดีคืนมา แปลงเป็นความซ ว ย

แต่ว่าคุณเชื่อเหอะ หากเขาไม่เคยทราบบุญคุณ ทำอะไรก็ไม่ขึ้น ไม่รุ่งโรจน์หรอก

ชีวิตราวกับจะดีแต่ก็ไม่ ดี เหมือนจะราบรื่นแต่ว่าก็ไม่ราบรื่น


ล้ ม ลุกคลุกคลานอยู่ที่เดิม ท้ายที่สุดก็พั ง ไม่เป็นท่า

โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไร ทำสิ่งใด ไม่ต้องทวงบุญคุณ

เยี่ยมที่สุดคือ เลิกคบ ออกไปให้ไกลจากชีวิตเขา

มนุษย์เราจะอยู่ตามลำพังคนเดียวตามลำพั ง ไม่ได้ จำต้องพึ่งพาอาศัยกัน

ทั้งยังในด้านกำลังกาย กำลังความคิด แล้วก็อื่นๆ

หากได้รับชุบเลี้ยงจากคนไหนกัน ก็เรียกผู้นั้นว่า ผู้มีพระคุณหรือผู้มีบุญคุณณ

คนใดกันช่วยเหลือให้อุปถัมภ์แก่พวกเรา ก็ไม่ควรจะลืมพระคุณของคนนั้น


ผู้ไม่ลืมเลือนอุปถัมภ์ค้ำชูที่ผู้อื่นมีแก่ตน ย่อมเป็นผู้เจริญด้วย ลาภยศสรรเสริญ ความเป็นมิตร


แต่ว่าคนใดกันแน่ไม่รู้บุญคุณของผู้อื่น หรือดูหมิ่นบุญคุณของผู้มีชุบเลี้ยงของตัวเอง

ผู้นั้นจะเป็นผู้ ต่ำ ต้ อ ย ทำความดีไม่ขึ้น เป็นคน อ า ภั พ

แม้ว่าจะพย าย ามขวนขวายยังไง ก็มักจะ ล้ ม เ ห ล ว ไม่เป็นท่าอย่างเดิม

การลบหลู่ดูหมิ่นบุญคุณของผู้มีบุญคุณ เขาเรียกว่า การ เ น รคุณ

การ เ น ร คุณเป็นตัว ก า ล กิ ณี จะคอยดึงให้คนเ น ร ปะทุ ณ ต ก ต่ำ

ไม่มีช่องทาง ที่จะสุขสบายได้ในชีวิตได้เลย

เพราะปราศจากความรู้บุญคุณคน ปราศจากความเป็นผู้ทรงคุณวุฒิคุณคน

จงคิดให้ได้เหอะ เมื่อคิดได้แล้ว เปลี่ยนแปลงนิสัยตัวเอง ได้ชดเชยตามควรแล้ว

ชีวิตก็จะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆตามปัจจัยต่างๆที่จะต้องเป็น

กตัญญูรู้คุณคนแล้วทดแทน นี่แหละ เครื่องหมายของคนดี
บุญคุณ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13590/