5 ทางออกนิสัยโมโหง่ายให้เปลี่ยนเป็นคนใจเย็นขึ้น

[Joe524]

5 แนวทางแก้นิสัยคนขีขุ่นเคืองให้เปลี่ยนเป็นคนใจเย็น(กว่าเดิม)

1. ยับยั้งคำพูดและก็ความประพฤติในยามที่โกรธเป็นถ้ามีความรู้สึกว่า อารมณ์กำลังพล่าน


ให้สงบนิ่งไว้ จำไว้เสมอว่า...ความนึกคิดอะไรก็แล้วแต่คำบอกเล่าอะไรก็แล้วแต่การกระทำอะไรก็ตามแม้มีขึ้นในยามโก รธ


มักเป็นไปในทางทำลายรุ นแร งอาจหนำใจชั่วครู่ แต่ท้ายที่สุดจะไม่เป็นผลดี

ก ฏเหล็กเบื้องต้นที่ต้องทำให้ได้เป็น...เราจะไม่พูดหรือทำอะไรเด็ดข าดในย ามที่โกร ธ

รอให้ใจเย็นก่อน หายโก รธก่อนและก็หลังจากนั้นจึงค่อยว่ากัน

2. พิจารณาโท ษของความโก รธและประโยชน์ที่ได้รับมาจากความกรุณาคือให้ย้อนนึกถึงชีวิตก่อนหน้านี้

ว่าพวกเราเสียอะไรไปบ้างด้วยเหตุว่าความโก รธทำผู้ใดกันแน่เสียใจกี่คน ทำลายโอกาสไปเท่าใด

ทำลายความเกี่ยวข้องไปอย่างไรสิ่งพวกนี้ให้ก้มมาคิดเสมอๆคิดซ้ำให้มากๆ


ไตร่ตรองจนปัญญาเห็นด้วย หมดคำกล่าวอ้างอย ากเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยความเต็มใจ


เนื่องจากว่ามั่นใจแล้วว่า ความโกรธไม่ใช่ของดีแต่ว่าเป็นสิ่งที่ทำลายความสำราญรวมทั้งความเจริญ

ทั้งของพวกเรา ผู้ที่พวกเรารัก รวมทั้งคนที่รักพวกเราไม่มีใครได้อะไรเลยจากความโก รธ

ธรรมชาติของคนเราเกลียดชังให้ผู้ใดกันแน่มาสั่งเท่าที่เรายังไม่ต กผลึ กยอมจำนนด้วยตัวเองว่า

ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องเปลี่ยนแปลงตนเองผู้ใดกันจะกล่าวคนใดจะบอกจะสอนก็ย ากยิ่งที่คนเราจะเปลี่ยน

เช่นนี้แล้ว เราก็เลยต้องกระทำตัวเป็นอาจารย์ของตัวเองเพื่อสอนตนเองให้เห็นพิ ษภั ยของความโก รธไม่ชอบอารมณ์ทำลาย

3. สร้างความสำราญเล็กๆน้อยๆให้คนอื่นๆจนกระทั่งเป็นนิสัยเป็นให้รู้จักยกย่อง ให้กำลังใจผู้คนเสมอๆ

เมื่อทำให้เขาแฮปปี้แล้วให้เรารู้จักเอาอกเอาใจไปสัมผัสความรู้สึกนั้นเรียกว่า ให้ดวงใจเราดื่มด่ำ

กับความรู้สึกที่เย็นใจอยู่เสมอเราอาจจะทดลองเปรียบกันดูก็ได้ว่าอารมณ์ลักษณะนี้ กับอารมณ์ในยามที่โก รธ

แบบไหนดีกว่ากันถ้าเกิดหัวใจพวกเราคุ้นกับความรู้สึกที่ดีมันจะค่อยๆเหนื่อยหน่ายความโมโหไม่ชอบชิ งชั งไปทีละเล็กทีละน้อย

ในข้อนี้เป็นการแ ก้กิเล สด้วยกุศ ลฝ่ายตรงข้ามถ้าความโมโหเป็นด้านมืดในที่นี้ด้านสว่างก็คือความกรุณา

พวกเราบางทีอาจเฉดหัวไล่ความมืดมิได้แต่ถ้าเราจุ ดไ ฟได้ ความมืดดำจะหายไปและก็ความสว่างจะเข้ามาแทนที่

ภาษาธรรมเรียกสิ่งนี้ว่า การทวนกระแสกิเล สเป็นใช้ธรรมคู่ตรงกันข้ามมาจัดการกิเล สให้เบาบาง


4. ฝึกหัดมองความรู้สึกด้วยความบริสุทธิ์ใจที่เป็นกลางในข้อนี้คือธรรมะชั้นลึก เป็นการก้าวหน้าสติ


เป็นเราฝึกหัดมองอารมณ์ต่างๆของเราด้วยใจที่เป็นกลางเหมือนความนึกคิดความรู้สึกนั้นไม่ใช่พวกเรา

ดีอกดีใจก็ไม่เข้าไป เศร้าใจก็ไม่เข้าไปคนสรรเสริญก็วางไว้ คนนินทาก็วางไว้ฝึกหัดให้มีความคิดเห็นว่าอารมณ์ความนึกคิดกลุ่มนี้

ถ้าเกิดหัวใจเราเข้าไปยึดในที่สุดก็ไม่ดีทั้งหมดเพราะว่ายึดข้างหนึ่ง อีกข้างก็จะตามมาด้วยเสมือนในกำเหรียญเอาไว้ภายในมือ

ก็จะได้อีกทั้งหัวทั้งยังก้อยมาในคราเดียวรักสุขก็จะได้ทุ กข์เป็นของแถมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในข้อนี้ถ้าฝึกฝนเป็นประจำเว้นแต่ความโมโหแล้วยังช่วยกำจัดตัดทอนพลังความคิดด้านล บได้ทั้งหมดทั้งปวง

ดังเช่นความเศร้าหมองความเหงาความเหนื่อยหน่ายต่างๆจิตใจจะเป็นกลาง หนักแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ

5. รู้จักอยู่ รู้จักจุดอ่อนจุดแข็ งของตนเองเป็นให้รู้จักพิจารณาตนเองถ้าเราโก รธคนใดกันแน่เป็นประจำ

เวลาอยู่ใกล้ก็ให้ระวังบางเวลา กับคนบางคนให้สังเกตดูเถิดว่า พวกเราก็โกรธเขา

โกรธคนๆนี้ กระทั่งกลายเป็นความคุ้นเคยเพียงเห็นหน้ายังไม่ทันทำอะไร

ดวงใจก็วูบๆไหวๆความหงุดหงิดก็เริ่มเข้ามาที่ตรงนี้ควรจะเลี่ยงการปะทะดังนี้ในเรื่องที่หลีกเลี่ยงมิได้จริงๆ

ดังเช่นเป็นคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัว เป็นสามีภรรย าเป็นลูก เป็นเจ้านาย ลูกน้อง มิตรสหาย อย่างนี้ก็ให้ชูเอาสิ่งที่เขาทำขั ดหัวใจเรา

มาเป็นสิ่งที่ใช้ในการฝึกหัดจิตใจของพวกเรา ฝึกอภั ยดียิ่งกว่าปล่อยใจของพวกเราให้ต กต่ำไป

เพราะมัวแต่เถียงกับเขาให้เอาความขัดแย้ งนั้นมาบ่มเพาะความรัก เมตตาขอให้เราทราบไว้ว่า ส่วนมากแล้ว

ถ้าเกิดไม่ตรงกันแม้กระนั้นมีความจำเป็นต้องอยู่ร่วมกันตัดกันไม่ข าด แย กกันไม่ข าดสิ่งนี้มักเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากมีบุญก ร ร ม

สัมพันธ์ร่วมกันมานานกลายเป็นแรงก ร ร มผูกพัน ผู กรั้งไม่ให้ไปไหนอย่างนี้ยิ่งจำเป็นต้องรู้จักระวัง ยับยั้ง สำรวม

อย่าไปก่อเวรก่อกรรมให้กันและกันมากขึ้นการเป็นคนโมโหง่าย ไม่มีอะไรดีมีแต่เสียผลดี เสียอีกทั้งสุขภาพทางกายใจ

ทำลายความสัมพันธ์ ทำลายหน้าที่การงานทำลายบารมีในตนกลายเป็นผู้ที่สร้างความทุ กข์ให้คนอื่น

และตัวเองก็หาความสุขได้ย าก5 ข้อนี้ ฝึกแรกๆจะทำได้ย ากแต่ขอให้อดทนฝึกทำทุกข้ออย่างสม่ำเสมอ

สำคัญเป็นควรจะมีกำลังใจ รวมทั้งระเบียบฝึกแรกๆอย่าปล่อยใจตามความเคยชินของตนในที่สุดแล้วพวกเราควรจะมีความเข้าใจว่า

การลดพยายามอัตตาของตนลดความโกรธชิงชังของตัวเองเราไม่ได้ทำเพื่อผู้ใดแต่พวกเราทำเพื่อยกฐานะจิตใจของตน

เพื่อความสบายของพวกเราเองจริงอยู่สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำกันได้ง่ายๆ แต่หากทำเป็นวันหนึ่ง รู้จะสัมผัสถึงความเบาใจของชีวิต

มีชีวิตที่ค่อยขึ้น สบายขึ้นถึงวันนั้นพวกเราจะยินดี รวมทั้งรู้สึกขอบพระคุณตนเองรู้สึกภูมิใจว่า พวกเราสามารถผ่านผ่านตัวตนเก่าๆ

ไปสู่ตัวตนใหม่ที่ดีกว่าเดิมและก็สิ่งนี้เป็นการมอบความรักรวมทั้งความปรานีให้ตนเองอย่างแท้จริง...

แก้นิสัย
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12886/
คำค้นหา : ใจเย็นขึ้น