8 สัญญาณอ่านใจคน ที่คนเฉลี่ยวฉลาดชอบใช้กัน

[Chigaru]

สุภาษิตไทยที่ว่า "ทราบหน้าไม่รู้จักหัวใจ" ยังคงเป็นความจริงที่แสลงใจเสมอ เนื่องจากว่าแม้กระทั่งคุณสามารถเก็บแอบซ่อนอารมณ์ความรู้สึกได้ลึกสุด ไม่ให้แสดงออกทางสีหน้า

น้ำเสียง หรือ วาจาที่เอื้อนเอ่ยได้เก่งขนาดไหน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ภาษากายที่บ่อยครั้งแสดงออกมาโดยไม่ได้คาดคิด กลับเฉลยคำตอบเรื่องจริงในใจที่คุณพย า ย า มซุกซ่อนไว้อย่างไม่น่ายกโทษ


เนื่องจากผลการวิ จั ย ของมหาวิทย า ลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส ในสหรัฐ พบแล้วว่า ในการสื่อส า ร ของคนเราเรานั้น อาศัยการรับรู้และตีความจากคำบอกเล่าที่สื่อส า ร ออกมาเพียงแต่ 7% แค่นั้น เวลาที่อีก 38% มาจากน้ำเสียงที่ใช้เพื่อสำหรับการกล่าว แล้วก็อีก 55% มาจากภาษากายที่แสดงออก

โดยเหตุนี้ ถ้าเกิดคุณไม่อย า กให้คนอื่นล่วงรู้ความลับที่อยู่ในใจ เผลอเข้าใจคุณผิดเนื่องจากว่าภาษากายที่แสดงออกเนื่องจากความเคยชิน หรือ อย า กมีวิธีอ่ า น ภาษากายไว้ประจำตัว ลองไปดูแนวทางการอ่ า น ดวงใจคนแบบง่ายๆโดยไม่ต้องพึ่งห ม อ มอง ลองเริ่มดู 8 ภาษากายของเพื่อนคุยมอง

1.ก้มศีรษะถี่เหลือเกิน แม้คุณสังเกตว่าเพื่อนคุยก้มศีรษะตอบรับกับสิ่งที่คุณพูดมากกระทั่งเกินไป รู้ไว้เลยว่า นั่นเป็นสัญญาณที่ฟ้องว่า เขา/เธอมิได้เห็นด้วยกับคุณจริงๆแต่ว่ากำลังรู้สึกหนักใจไปส า ร พัดว่า คุณจะคิดกับเขาเช่นไร หรือ เขาจะสามารถทำตามสิ่งที่คุณบอกได้ไหมต่างหาก


2.ขบขากรรไกรแน่น วิธีง่ายๆสำหรับการจับสังเกตว่าอีกข้างกำลังรู้สึกกลุ้มใจ หรือ เ ค รี ย ด กับสิ่งที่คุณกำลังกล่าวถึงหรือไม่หมายถึงเขามักขบกรรไกรแน่น จนคอตึง หน้าผากย่น หากมีอาการเหล่านี้ ทราบเลยว่า ต่อให้คำกล่าวของเขาจะดูชิลขนาดไหน แต่ว่าในใจของอีกข้างกลับกำลังว้าวุ่นสุดๆ

3.จับโ ก ห ก ผ่านดวงตา บ่อยมากที่เรามักจับโ ก ห ก ฝั่งตรงข้ามจากอาการหลบสายตา แต่วิธีนี้บางทีอาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป เนื่องจากหลายๆคนเริ่มจับทางได้ หันมาอำพรางอาการโ ก ห ก ด้วยการไม่ทำเป็นไม่กล้าสู้สายตาอีกต่อไป

ด้วยเหตุดังกล่าววิธีจับโ ก ห ก จากดวงตาเลยเปลี่ยนไป จำต้องหันมาสังเกตว่า ผู้ที่กำลังพย า ย า มประสานสายตาระหว่างเสวนากับคุณนั้นดูจงใจเหลือเกินหรือไม่ หรือจ้องมองคุณนานเกิน 10 วินาทีหรือไม่

เพราะว่ามีการศึกษาเล่าเรียนแล้วว่า โดยเฉลี่ยชาวอเมริกันจะประสานสายตากับคู่สนทนาเพียง 7-10 วินาทีเท่านั้น เพราะฉะนั้นแม้คุณบังเอิญไปเจอเพื่อนคุยที่พย า ย า มมองตากับคุณเป็นเวลานานกว่า 10 วินาที หรือ จนกระทั่งคุณรู้สึกอึดอัด คาดการณ์ไว้ก่อนเลยว่า เขา/คุณอาจกำลังทำใจดีสู้เสือ พย า ย า มปกปิดเรื่องจริงบางสิ่งบางอย่างจากคุณอยู่


4.ชูคิ้วสูง มี 3 เพียงแค่ความรู้สึกเท่านั้นที่จะทำให้ส ม อ ง สั่งให้มนุษย์เราเลิกขนคิ้วสูง ดังเช่น งงงวย กลุ้มอกกลุ้มใจ และ กลัว โดยเหตุนี้แม้คู่เจรจาส่งภาษากายด้วยการเลิกขนคิ้ว ทั้งที่หัวข้อที่กำลังเสวนามิได้อยู่ในอีกทั้ง 3 หมวดที่กล่าวมา คุณจะต้องเริ่มทวนแล้วว่า เขา/คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

5.เห็นคุณเป็นกระจก อย่าหงุดหงิดถ้าหากมองเห็นคู่สนทนามักแสดงภาษากายตามคุณทุกอย่าง เพราะการทำตนเหมือนเป็นกระจกของคุณนั้น เป็นเยี่ยมในพฤติกรรมที่มนุษย์เรามักแสดงออกโดยไม่รู้ตัว

เมื่อคิดว่ามีความเชื่อฟังอีกฝ่าย เพราะฉะนั้นถ้าหากคู่เจรจาแสดงออกอย่างนี้ระหว่างที่คุณกำลังหว่านล้อมหรือสนทนาบางสิ่งบางอย่าง ยิ้มในใจได้เลยว่า การเจรจาครั้งนี้มีชัยไปกว่าครึ่ง

6.อาการที่แสดงออกสำคัญกว่าความสามารถ เคยสงสัยมั้ยว่า เพราะอะไรบางบุคคลเพียงแค่วินาทีแรกที่เดินเข้ามาในห้องที่ใช้ในการประชุม ก็เชื้อเชิญให้ประทับใจอย่างกับมีพ ลั ง ดึงดูดบางสิ่งบางอย่าง เวลาที่อีกคนแค่ก้าวแรกที่แสดงตัว

ก็เชิญให้วินิจฉัยว่าไร้ฝีมือ ทั้งผองนี้เป็นเนื่องจากว่าภาษากายที่เขา/คุณแสดงออก แน่ๆว่า ถ้าคุณเดินด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจ อกผ่ายไหล่ผึ่ง ย่อมสะท้อนถึงคาแร็กเตอร์ของผู้นำที่มีความเชื่อมั่น

7.กอดอกเป็นนิจ ไขว่ห้างเสมอๆ ถ้าหากเขา/เธอมักพ่วงด้วยลีลากอดอก หรือ ไขว่ห้าง ทราบไว้เลยว่า ในใจลึกๆของเขากำลัง สร้างกำแพงขึ้นมาขวางกั้นระหว่างคุณและเขาอยู่ หนึ่งในผลการศึกษาที่ช่วยไขปริศนาภาษากายดังกล่าวได้ดิบได้ดี

เป็น การเรียนโดยใช้วิธีบันทึกเทปคู่เจรจาต่อรองจำนวน 2,000 คู่ จนพบว่า คู่เจรจาที่ฝ่ายหนึ่งออกอาการไขว้ขาล้วนลงเอยด้วยความไม่ประสบผลสำเร็จทั้งมวล

ที่เป็นแบบนี้ ในเชิงจิ ต วิ ท ย า อธิบายว่า การที่มนุษย์เราแสดงท่าทางดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นเป็นการส่งสัญญาณโดยไม่ทันรู้ตัวอย่างหนึ่งว่า เขา/คุณกำลังพย า ย า มกันตัวเองจากสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า


8.ยิ้มจากใจจำต้องไม่แคร์ตีนกา ต่อให้สลดแค่ไหน คุณก็ยังฉีกยิ้มสู้ได้ แต่ดวงตาที่เสียใจห ม อ งย า กที่จะปิดบัง หนึ่งในเทคนิคพิสูจน์ว่าศัตรูยิ้มจากใจหรือไม่ อย่ามองแค่รอยยิ้มที่ริมฝีปาก แม้กระนั้นให้ดูลึกไปทั่วอีกทั้งใบหน้า ถ้าหากยิ้มแล้ว ปรากฏรอยย่นบนบริเวณใบหน้า นั่นแหละ ยิ้มจากดวงใจ 100%
อ่านใจ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13487/