11 แนวทางช่วยให้คุณเลิกกังวลใจ เรื่องที่ควบคุมไม่ได้

[Chigaru]

อย่ าพึ่งจะสะดุ้งไปหากคุณเป็นผู้ที่มักเ ค รี ย ด หรือวิตกกับสิ่งต่างๆเพราะว่าโน่นเป็นเรื่องธรรมดา

แต่นิสัยอย่ างนี้มันไม่ใช่เรื่องดีนักหคอยก เพราะเหตุว่ามันมีผลต่อภาวะจิตใจและชีวิตประจำวันของคุณได้


แม้ว่าการเลิกนิสัยแบบงี้นั้นบางทีก็อาจจะไม่ได้ง่าย แม้กระนั้นก็มีหนทางอยู่เหมือนกัน วันนี้เรา


จึงมีเคล็ดลับที่สามารถจะช่วยให้คุณไม่เ ค รี ย ด เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆแล้วก็สิ่งที่ควบคุมมิได้ ไปชมกันเลยว่ามีอะไรบ้ าง

1. เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง

หนึ่งในมูลเหตุที่ทำให้ท่านมักจะท้อแท้อยู่ตลอดก็คือการปล่อยวางไม่เป็น การปล่อยวางนั้นย าก

แต่ว่าควรจดจำไว้ว่ามันมีบางอย่างบางอย่ างที่คุณเปลี่ยนไม่ได้อยู่ดี สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไปแล้วมันไม่อาจจะย้อนกลับมาคืนมาได้หรอก

เพราะเหตุใดคุณไม่รับมันแล้วปล่อยมันไปล่ะ ต่อไปนี้คุณจะไปก้าวไปด้านหน้าต่อและโฟกัสกับสิ่งที่จำเป็นจริงๆ

2. จุดโฟกัสกับสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ก็เพียงพอ

หากในอดีตคุณทำผิดพลาดไปแล้ว ก็จำเป็นต้องมานึกถึงสิ่งที่คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขมันได้ปัจจุบันนี้แทน ถ้าหากคุณไม่ชอบใจกับผลงานในเดือนที่ผ่านมา

ก็ลองปรับปรุงตัวเองในขณะนี้ให้ดีขึ้น อย่ ามัวรีรอที่จะปรับปรุงแก้ไขเนื่องจากมันอาจจะสายไป ได้แก่หากคุณสอบตก คุณก็อาจจะจำต้องสร้างนิสัยใน


การเล่าเรียนขึ้นมาใหม่ ควรอย่ าลืมว่ามีสิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ และก็ควรจุดโฟกัสกับสิ่งพวกนี้จะดีกว่า

3. ปรับใช้แผนที่ไม่ต า ย ตัวรวมทั้งมีความยืดหยุ่น

อย่ าเพิ่งจะยอมถ้าสิ่งต่างๆไม่เป็นอย่ างที่คุณอยากได้ ลองใช้แผนอื่นๆแทนก็ได้

คุณอาจจึงควรแปลงกลอุบาย เปลี่ยนแนวทางการคิด ลองคิดถึงทางแก้ปัญหาแทนที่จะมานั่งกังวลกับสิ่งที่ไม่เป็นเช่นใจ

4. ออกมาจากพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone)

อีกหนึ่งแนวทางที่สามารถช่วยให้ท่านหายไม่ค่อยสบายใจก็คือการลองทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมด้วยการเปิดใจรับของใหม่ๆพบเห็นคนใหม่ๆ

ทดลองทำสิ่งใหม่ๆคุณอาจจะพบว่าตัวเองทำเป็นดีมากกว่าที่คิด ต้องออกมาจากคอมฟอร์ทโซนของตน แล้วคิดให้ต่างไปจากเดิม

5. มุ่งมั่นพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้ที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

คุณจะต้องพย าย ามปรับปรุงแก้ไขตนเองให้ดียิ่งขึ้น แทนที่จะมัวแต่กลุ้มใจกับสิ่งที่ควบคุมมิได้ เรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีต

แล้วก็อย่ าพย าย ามเปลี่ยนแปลงอดีตเพราะโน่นคือสิ่งที่คุณควบคุมมิได้ แต่ว่าควรเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตัวคุณให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

6. ใช้เวลากับคนคิดบวก

การไม่สบายใจมากเกินความจำเป็นนั้นทำให้ท่านสติแตกได้ ลองคุยกับเพื่อนพ้องที่มีทัศนคติที่ดี หรือมองโลกในแง่บวก

คุยกับผู้ที่เขาตั้งใจฟังคุณ และเข้าใจคุณ เล่าให้เขาฟังว่าคุณตื่นตระหนกกับอะไร


และเอาข้อแนะนำของพวกเขามาประยุกต์ การคุยกับผู้ที่คิดบวกจะช่วยให้คุณได้มุมมองใหม่ๆมากขึ้นเรื่อยๆ

7. เปิดใจรับความเคลื่อนไหว

หลายสิ่งในชีวิตนั้นเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน แต่นี่แหละเป็นมูลเหตุที่ทำให้ชีวิตพวกเรานั้นมีความหมายขึ้นมาได้ ฉะนั้นต้องเปิดรับความ

เปลี่ยน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถที่จะเลี่ยงได้

แต่คนไหนจะทราบล่ะว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้นบ้ าง อย่ ากลัว และก็จงเข้าไปค้นหามัน

8. อย่ าโทษตัวเอง

คุณไม่อาจควบคุมได้ทุกอย่ าง ด้วยเหตุดังกล่าวอย่ าโทษตัวเอง คุณอาจจะเคยทำอะไรแ ย่ๆมาก่อน

แต่คุณก็สามารถเอามันมาเป็นบทเรียนเพื่อพัฒนาตัวเองได้ การโทษตัวเองมีแต่จะก่อให้สิ่งต่างๆ

แ ย่ลง สิ่งที่คุณควรจะทำคือมองหาผู้ที่เคยทำพลาดแล้วทำความเข้าใจว่าเขาปรับปรุงแก้ไขมันได้อย่างไร ให้กำลังใจตัวเองว่าคุณก็ทำเป็นเช่นเดียวกัน

9. ฝึกสมาธิและมีสติอยู่ตลอด

นั่งสมาธิ ฝึกฝนลมหายใจ ทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน แล้วคุณจะพบว่ามันเป็นผลดีต่อคุณอย่ างมาก

10. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

วิถีชีวิตเป็นหนึ่งในสาเหตุของความไม่สบายใจ อย่ างอย่างเช่น คุณหนักใจว่าตัวเองอ้วนเกินไป แม้กระนั้นคุณก็ยังไม่ยอมทำอะไร

แทนที่จะอยู่เฉยๆเพราะอะไรไม่ทดลองเปลี่ยนแปลงมะแม่น้ำละเล็กละน้อยล่ะ? ทดลองออกกำลังกายวันแล้ววันเล่า หลีกเลี่ยงอ า ห า ร ขยะ นอนให้เพียง


พอเพียง บางคราวคุณอาจจะมีความรู้สึกว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก แต่ศัตรูจริงๆก็คือตัวคุณเองนั่นแหละ ด้วยเหตุดังกล่าวคุณจำเป็นต้องเอาชนะตนเองให้ได้

11. หยุดเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือทดลองพักเอาไว้ก่อน

การเล่นโซเชียลมีเดียมากจนเกินความจำเป็นนั้นทำให้คุณวิตกได้ง่ายอย่างยิ่ง มันมีการเทียบตนเองกับบุคคลอื่นอยู่เสมอ ถ้าคุณมีความคิดว่าการ

เล่นเครือข่ายสังคมมันทำให้คุณรู้สึกแ ย่ คุณก็จำเป็นจะเลิกเล่นซะ แล้วหันไปทำอะไรที่มีประโยชน์ หรือให้ความสบายกับคุณแทนจะดีมากยิ่งกว่า
คิดมาก
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13460/