มายาคติและก็การตีตรา

[Cindy700]

สิ่งหนึ่งที่ "หลุดนักเรียน" ต้องเผชิญ คือ การตีตราจากสังคม คนส่วนมากยังคงมั่นใจว่า วุฒิการศึกษาคือบันไดขั้นสำคัญของการบรรลุเป้าหมายในชีวิต และคนที่ออกมาจากระบบการศึกษากลางคันมักถูกเห็นว่า "เกียจคร้าน" หรือ "ไม่ฉลาด"

ผลพวงจากมายาคตินี้ไม่ใช่แค่ในระดับบุคคล แม้กระนั้นยังรวมทั้งในโลกของการทำงาน หลายอาชีพยังปรารถนาใบสำเร็จการศึกษาเป็นข้อตกลงพื้นฐาน ซึ่งทำให้ "หลุดนักเรียน" เข้าถึงช่องทางยากขึ้น

อย่างไรก็ดี มุมมองนี้เริ่มเปลี่ยนแปลง เมื่อบุคคลมีชื่อเยอะมาก ตัวอย่างเช่น Elon Musk, Richard Branson แล้วก็ Oprah Winfrey ออกมาเปิดเผยว่าตนเองก็เคย "หลุด" เช่นเดียวกัน แต่กลับเปลี่ยนเป็นบุคคลผู้ประสบความสำเร็จระดับนานาชาติ

ในสมัยดิจิทัลปัจจุบัน หลายองค์กรเริ่มให้ความเอาใจใส่กับ "ความชำนาญจริง" มากกว่ากระดาษใบสุทธิ ทำให้ "หลุดนักเรียน" มีพื้นที่สำหรับเพื่อการพิสูจน์ตัวเองได้มากขึ้น

การเรียนนอกห้องเรียน: ทางใหม่สู่การบรรลุเป้าหมาย
ข้อดีสำคัญของการออกจากระบบหมายถึงการได้เลือกเรียนรู้ในแบบของตน สำหรับเด็กนักเรียนคนจำนวนไม่น้อย ระบบโรงเรียนแบบเดิมไม่อาจจะตอบโจทย์ได้ การเรียนแบบอิสระก็เลยกลายเป็นช่องทางที่น่าดึงดูด

อินเทอร์เน็ตได้เปิดโลกใหม่ให้กับการเล่าเรียน แพลตฟอร์มออนไลน์ อย่างเช่น Coursera, Udemy และก็ Khan Academy ให้โอกาสให้ทุกคนสามารถเรียนอะไรก็ได้ ทุกๆที่ ทุกเวลา นักเรียนที่พอใจงานวางแบบ เขียนรหัส หรืออาชีพอิสระ สามารถฝึกซ้อมความถนัดเหล่านี้ผ่านออนไลน์และก็นำไปใช้งานจริงได้

นอกเหนือจากนี้ การฝึกฝนการทำงานหรือเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงก็เป็นอีกเส้นทางที่ "หลุดนักเรียน" คนจำนวนไม่น้อยเลือกใช้ ดังเช่นว่า อาชีพก่อสร้าง งานครัว หรือเทคโนโลยีที่เน้นการปฏิบัติ มากยิ่งกว่าทฤษฎี

สำหรับบางบุคคล การเป็นผู้ประกอบกิจการคือเป้าหมายสำคัญ การมีอิสระสำหรับการทดสอบ ล้มเหลว และก็เริ่มต้นใหม่ เป็นช่องทางในการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับ Steve Jobs หรือ Bill Gates ที่ออกมาจากมหาวิทยาลัยเพื่อเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง